กระเพราทะเลรวม

กระเพราทะเลรวม

เมนูโปรดของใครหลายๆคน เราไม่จำเป็นต้องงดนะคะ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนให้คลีนมากขึ้น  

อุปกรณ์เครื่องปรุงรส ผัดกระเพราทะเล

-ปลาหมึกกล้วย (ตัวละ 200 กรัม) บั้งเป็นตาราง	2 ตัว
-กุ้งแช่บ๊วยแกะเปลือกเด็ดหัวไว้หางผ่าหลัง	6 ตัว
-น้ำมันพืช	3 ช้อนโต๊ะ
-กระเทียมบด	1 ช้อนโต๊ะ
-พริกขี้หนูสีแดงบด	3 ช้อนโต๊ะ
-น้ำหรือน้ำสต๊อกหมู	1/4 ถ้วย
-น้ำมันหอย	1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลา	1 1/2 ช้อนโต๊ะ
-ซอสปรุงรส	1/2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำตาลทราย	1-2 ช้อนชา
-กระเพราเด็ดเป็นใบ	1/2 ถ้วย
-พริกน้ำปลา

ใบกระเพราทอดกรอบและยอดกระเพราสำหรับตกแต่ง

วิธีการทำ ผัดกระเพราทะเล

1. ตั้งกระทะบนไฟกลางจนร้อน ใส่น้ำมัน กระเทียมและพริกขี้หนูบด ผัดให้หอม

2. ใส่ปลาหมึก กุ้ง ผัดพอทั่วและเกือบสุก เติมน้ำหรือน้ำสต๊อกหมู

3. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำปลา ซอสปรุงรส น้ำตาล ผัดพอสุกทั่ว ใส่ใบกระเพรา ผัดอีกครั้งพอทั่ว ปิดไฟ

4. ตักราดข้าวสวยร้อนๆ ตกแต่งด้วยใบกระเพราทอดกรอบและยอดกระเพรา เสิร์ฟกับพริกน้ำปลา

เพียงแค่นี้เราก็ได้เมนูอาหารตามสั่ง ผัดกระเพราทะเล ไว้ทานแล้วค่ะ

*ที่มา:http://xn--72c1af5bde7ccr1cdbe2wnc.blogspot.com/2014/08/blog-post_53.html

น้ำพริกหนุ่ม

น้ำพริกหนุ่ม

      วันนี้มานำเสนอสูตรน้ำพริกของเมืองเหนือที่คนทุกภาคชื่นชอบที่เรารู้จักกันดีอย่าง น้ำพริกหนุ่ม ที่ทานคู่กับแคปหมูอร่อยเหาะ เลยที่เดียว วิธีทำก็ไม่ยากลองไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย

สูตร น้ำพริกหนุ่ม 

ส่วนผสมน้ำพริกหนุ่ม

• พริกหนุ่ม   15   เม็ด
• กระเทียม   5   หัว
• มะนาว   2   ลูก
• น้ำตาลปี๊บ   1   ช้อนชา
• หอมแดง   5   หัว
• น้ำปลา   2   ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำพริกหนุ่ม

1. นำพริกหนุ่ม กระเทียม หอมแดง มาเผา ให้เกรียม พักไว้ให้เย็นแล้วปอกเปลือก พริกหนุ่ม กระเทียม และหอมแดงออก
2. นำพริกหนุ่ม กระเทียมและหอมแดงที่ปกเปลือกเสร็จแล้ว มาโขลกรวมกันให้ละเอียด
3. เมื่อส่วนผสมเข้าดีแล้ว เติมน้ำตาล มะนาวและน้ำปลาลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมถ้าอยากเพิ่มรสชาติไหนเพิ่มลงไปได้เลย

2 สูตร ใส่ปลาร้าและถั่วเน่า

• สูตร ใส่ปลาร้า เครื่องปรุง – พริกหนุ่ม 7 เม็ด – หัวหอม 5 หัว – กระเทียม 2 หัว – มะเขือเทศลูกเล็ก 5 ลูก – เกลือป่น 1 ช้อนชา – ปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ – ต้นหอม – ผักชีหั่นหยาบ
• สูตร ใส่ถั่วเน่า เครื่องปรุง -พริกหนุ่ม 7 เม็ด -หัวหอม 5 หัว -กระเทียม 5 หัว -ถั่วเน่าแผ่น 1 แผ่น -เกลือป่น 1 ช้อนชา -ต้นหอม ผักชี หั่นหยาบ

*ที่มา:https://food.mthai.com/food-recipe/96572.html

น้ำพริกปลาทู

น้ำพริกปลาทู

 วีดีโอแสดงการทำน้ำพริก

     น้ำพริกปลาทู ” เป็นเมนูอาหารที่มีการตำน้ำพริก และใส่ปลาทูนึ่งเข้าไปตำร่วมด้วย ปรุงรสให้ออกเผ็ด เปรี้ยว เค็ม รับประทานกับผักสด ผักต้ม นานาชนิดการปรุงน้ำพริกให้อร่อยควรใช้ครก  ครกเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไทย การตำอาหารด้วยครกจะทำให้อาหารอร่อย เพราะการตำจะทำให้รสชาติและสารต่างๆ ในพืชผักที่ถูกตำออกมา ทำให้ได้รสชาติดีกว่าการใช้เครื่องปั่น

คุณค่าอาหารทางโภชนาการ

        น้ำพริกปลาทู เป็นการเอาเนื้อปลาทูลงไปตามผสมในตัวเครื่องจิ้มหรือน้ำพริกโดยตรง ทำให้เราไม่ต้องมีปลาทูเป็นเครื่องเคียง เพราะฉะนั้นน้ำพริกปลาทูจานนี้ ก็จะรับประทานร่วมกับผักชนิดต่างๆ เป็นหลัก ตัวน้ำพริกก็จะอุดมไปด้วยโปรตีน แล้วปลาทู เป็นแหล่งที่ดีของโปรตีน มีโอเมก้า 3 และไอโอดีน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบำรุงสมอง โปรตีนในปลาเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย เมื่อรับประทานร่วมกับผักหลายชนิด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผักสดหรือผักต้มเท่านั้นเอง ซึ่งผักสดก็จะประกอบไปด้วย มะเขือ อาจจะมีมะเขือหลากหลายชนิด เช่น มะเขือเปราะ มะเขือม่วง หรือมะเขือต่างๆ ที่มีในท้องถิ่น นอกจากนั้นก็ยังมี ผักบุ้ง ซึ่งผักบุ้ง เวลาเรากินกับน้ำพริกมักจะนิยมเอาไปลวกให้นิ่ม รสชาติก็จะหวาน เวลารับประทานกับน้ำพริก ก็ค่อนข้างจะรับประทานได้ง่าย เพราะฉะนั้นอาหารจานนี้จึงเป็นอีกจานหนึ่งที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบ 5 หมู่เมื่อรับประทานร่วมกับข้าว ข้อควรระวังคือ อย่าทำให้รสจัดมากเกินไป เช่น เค็มจัด เปรี้ยวจัดหรือเผ็ดจัดเกินไป เพราะว่าไม่เป็นผลดีต่อระบบลำไส้หรือกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ รสเค็มจัดก็จะมีผลต่อการเพิ่มความดันโลหิต ดังนั้นคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ก็ควรที่จะระวังในเรื่องนี้ด้วย

ส่วนผสมและสัดส่วน

1. เนื้อปลาทูย่างหรือทอด 1 ตัว
2. พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ 10 กรัม
3. พริกหยวก 10 กรัม
4. หอมแดง 30 กรัม
5. กระเทียม 20 กรัม
6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมะนาว 1 ลูก
8. น้ำต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุง

1. นำพริกขี้หนู พริกหยวก หอมแดง กระเทียม ไปย่างให้สุก อาจจะมีไหม้ๆบ้าง ไม่เป็นไรค่ะ เสร็จแล้วนำมาลอกส่วนที่ไหม้ออกไปได้

2. นำเครื่องที่ย่างแล้วลงโขลกในครก พร้อมกับเนื้อปลาทู โขลกให้ละเอียดเข้ากัน

3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำต้มสุก คนให้เข้ากันแล้วตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ

*ที่มา:https://th.openrice.com/th/recipe/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B9/3649

https://youtu.be/o_ytlURS7UQ?t=3

อกไก่ย่างพริกไทยดำ

                                อกไก่ย่างพริกไทยดำ

     อกไก่ย่าง ถือเป็นเมนูยอดนิยมสำหรับคนทานอาหารคลีน เพราะอกไก่เป็นแหล่งโปรตีน ให้พลังงานต่ำ และมีไขมันต่ำ เหมาะสำหรับคนที่ลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหารเป็นอย่างมาก และก็เพราะว่าเนื้อส่วนอกไก่มีไขมันต่ำนี่แหละค่ะ ทำให้เนื้อค่อนข้างกระด้าง ไม่นุ่มเท่ากับเนื้อส่วนอื่นๆของไก่ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะวันนี้เรามีวิธีหมักอกไก่ให้นุ่มไม่แห้งแข็งมากฝากแน่นอนค่ะ

     วิธีหมักอกไก่ให้นุ่มแบบสุดๆ มีได้หลายวิธีเลยค่ะ เช่น การเติมนมสด, น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันรำข้าว ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ พร้อมกับการปรุงรสแล้วหมักทิ้งไว้ 30-60 นาทีค่ะ หรือจะตอกไข่ไก่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันทั้งไก่และเครื่องหมัก จะช่วยให้อกไก่ชุ่มชื่นขึ้นค่ะ แค่นี้ก็หมดปัญหาอกไก่ไม่อร่อย แห้ง แข็งกระด้างแล้วค่ะ ทำเมนูอกไก่คราวหน้าอย่าลืมลองทำกันดูนะคะ

ส่วนผสม

• อกไก่ลอกหนัง 100-200 กรัม

• พริกไทยดำ

• นมสด 2 ช้อนโต๊ะ

• เกลือ 1/2 ช้อนชา

• ผักสดหรือผักลวกตามชอบ

• หมักอกไก่ด้วย นมสด, พริกไทยดำ และเกลือ ทิ้งไว้ 30-60 นาที หรือนานกว่านี้แล้วแต่สะดวกค่ะ

• ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อนนะคะ เพื่อให้ไก่สุกทั้งข้างนอกข้างใน ทาน้ำมันให้ทั่วกระทะ

• นำไก่ลงไปย่าง ปิดฝาจะช่วยให้สุกเร็วขึ้นนะคะ

• รอจนไก่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวย ก็กลับด้าน ย่างต่อจนไก่สุกดี

• เสิร์ฟพร้อมข้าวกล้องร้อนๆ และผักที่เตรียมไว้

วิธีทำ

• ตั้งกระทะ ให้ไฟปานกลาง รอจนกระทั่งน้ำมันร้อน
• ใส่พริกซอยและกระเทียมซอยลงไป ผัดจนกระทั่งทั้งสองอย่างหอม
• จากนั้นเติมเนื้อไก่ลงไปผัด ผัดจนกว่าไก่จะสุกมีสีเหลืองสวย
• เสร็จแล้วใส่แครอทตามลงไป ผักจนกระทั่งแครอทใกล้สุก จากนั้นใส่หอมหัวใหญ่ พริกหวานลงไป
• ถ้ากระทะเริ่มแห้งสามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้
• ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาล คนส่วนผสมให้เข้ากัน
• ชิมรสชาติและปรับตามชอบ เสร็จแล้วปิดไฟ ตักใส่ชามเสริ์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

*ที่มา:https://cooking.kapook.com/view131085.html

ราเมนน้ำซุปกระดูกหมู

                        

             ราเมนน้ำซุปกระดูกหมู

 ราเมนน้ำซุปกระดูกหมู

          นอกจากมีเมนูอาหารจานเดียวและเมนูของทอดแล้ว อาหารญี่ปุ่นสุดฮิตที่ต้องมีติดไว้ในเมนูที่ขาดไม่ได้คือ ราเมน ขอแนะนำราเมนน้ำซุปกระดูกหมูสูตรจากคุณ Mr Trin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เส้นราเมนเหนียวนุ่มราดน้ำซุปกระดูกหมู โปะหมูชาชูลงไป ตกแต่งด้วยไข่ต้ม ลูกชิ้นปลาชิกูวะ และสาหร่ายแผ่น ได้กลิ่นอายญี่ปุ่นจริง ๆ นะคะชามนี้

ส่วนผสม ราเมนน้ำซุปกระดูกหมู

      ◆ กระดูกหมู ประมาณ 1.6 กิโลกรัม

      ◆ หัวไหล่หมู ประมาณ 1 กิโลกรัม

      ◆ น้ำเปล่า 3 ลิตร

      ◆ เหล้ามิริน 2 ทัพพี

      ◆ เกลือเล็กน้อย

      ◆ น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

      ◆ หมูสามชั้นประมาณ 1 กิโลกรัม

      ◆ โชยุ 5 ช้อนโต๊ะ   

      ◆ มิริน 5 ช้อนโต๊ะ

      ◆ ต้นหอมญี่ปุ่น หั่นเป็นท่อนสั้น 2 ต้น

      ◆ กระเทียมสด ทุบแล้วปอกเปลือก 12 กลีบ

      ◆ หอมใหญ่ ผ่า 4 ส่วน จำนวน 2 หัว

      ◆ เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ

      ◆ งาขาวคั่ว

      ◆ ลูกชิ้นปลาชิกูวะรูปดาว

      ◆ สาหร่ายแผ่น

      ◆ ต้นหอมญี่ปุ่นซอย

      ◆ ไข่ต้มหมักซอสชาชู

วิธีทำน้ำซุปกระดูกหมู

          1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อกะพอท่วมกระดูกหมู จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่กระดูกหมูและหัวไหล่หมูลงต้มประมาณ 5 นาที (โดยไม่ต้องคน จะเห็นว่ามีฟองอากาศและคราบสีน้ำตาลด้านบน ปล่อยมันเอาไว้แบบนั้น)          2. พอต้มครบ 5 นาที ให้เทน้ำทิ้ง จากนั้นตักกระดูกหมูออกมาล้างน้ำให้สะอาด 2 ครั้ง (ล้างให้สะอาดอย่าให้เหลือคราบหรือเศษใด ๆ ปะปน เอาให้แน่ใจว่าสะอาดจริง ๆ) เตรียมไว้
          3. เติมน้ำเปล่า 3 ลิตรลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรง ใส่กระดูกหมูล้างสะอาด ต้นหอมญี่ปุ่น กระเทียม และหอมใหญ่ลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ หากน้ำในหม้อแห้งให้หมั่นเติมน้ำเปล่าเป็นระยะ ๆ
          4. ต้มน้ำซุปไปเรื่อย ๆ จนน้ำซุปเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว หากต้องการเพิ่มความหวานของน้ำซุป ให้ใส่หอมใหญ่กับต้นหอมญี่ปุ่นอย่างละ 2 ต้นลงไปเพิ่ม เคี่ยวน้ำซุปด้วยไฟแรงไปเรื่อย ๆ หมั่นช้อนฟองทิ้ง เคี่ยวจนผักและเนื้อเริ่มเปื่อยเป็นเนื้อเดียวกับน้ำซุป และน้ำซุปข้นขึ้น
          5. เติมเหล้ามิริน 2 ทัพพี และเกลือลงไปเล็กน้อย (เนื่องจากมื้อนี้มีหมูสามชั้นแล้วและไม่อยากรับน้ำมันเพิ่มรวมถึงเครื่องปรุงอื่น ๆ เพราะผมต้องการรสชาติจากกระดูกหมูจริง ๆ ผมเพิ่มมิรินแค่ 2 ทัพพีและเกลือพอเค็มนิดหน่อยครับ น้ำซุปหวานอยู่แล้ว น้องสาวบอกขอน้ำตาลอีกนิด เลยใส่ไป 3 ช้อนโต๊ะแค่นั้นครับ ไม่มีการปรุงเพิ่มเติมอีกแล้ว)
          6. กรองน้ำซุปด้วยตะแกรง โดยใช้ทัพพีคนและกดไปเรื่อย ๆ เอาเฉพาะน้ำซุป เตรียมไว้

วิธีหมักหมูชาชู

          1. หมักหมูสามชั้นกับโชยุ 5 ช้อนโต๊ะ มิริน 5 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ต้นหอมญี่ปุ่น กระเทียมสด และหอมใหญ่ลงไป จากนั้นมัดด้วยเชือกให้แน่น
          2. นำเนื้อหมูชาชูใส่ลงในกระทะรอจนสุกแล้วใส่น้ำเปล่าให้เต็มกระทะและใส่เครื่องที่หมักไว้ลงไปเคี่ยวจนเดือด
          3. เปลี่ยนลงต้มในหม้อ เพิ่มน้ำอีก 1 ลิตร แล้วเคี่ยวไฟกลางไปเรื่อย ๆ รอจนหมูชาชูสุก นำหมูชาชูออกมาผึ่ง จากนั้นแล่เป็นชิ้น เตรียมไว้          2. นำเนื้อหมูชาชูใส่ลงในกระทะรอจนสุกแล้วใส่น้ำเปล่าให้เต็มกระทะและใส่เครื่องที่หมักไว้ลงไปเคี่ยวจนเดือด          3. เปลี่ยนลงต้มในหม้อ เพิ่มน้ำอีก 1 ลิตร แล้วเคี่ยวไฟกลางไปเรื่อย ๆ รอจนหมูชาชูสุก นำหมูชาชูออกมาผึ่ง จากนั้นแล่เป็นชิ้น เตรียมไว้

วิธีเสิร์ฟ

          1. ลวกเส้นราเมนพอสุก เตรียมไว้
          2. ตักน้ำซุปใส่ชาม ตามด้วยเส้นราเมนที่ลวกไว้ และหมูชาชู
          3. ตามด้วยไข่ต้มหมักซอสชาชู ลูกชิ้นปลาชิกูวะรูปดาว ต้นหอมญี่ปุ่นซอย งาขาวคั่ว และสาหร่าย พร้อมเสิร์ฟ


*ที่มา:https://cooking.kapook.com/view96783.html

กะเพรากุ้ง

กะเพรากุ้ง

             อาหารคลีนในวันนี้นะค่ะ คือเมนูกุ้งค่ะ ซึ่งเป็นเมนูที่ทำได้ง่ายๆ ที่สามารถทำทานเองที่บ้านได้ และยังเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักให้เราอีกด้วย วิธีทำก็มีดังนี้ค่ะ

          

ผัดกะเพรากุ้ง

►ผัดกะเพรากุ้ง เมนูรสชาติเข้มข้นจัดจ้าน หอมอร่อย เนื้อกุ้งนุ่มๆ ผัดกับใบกะเพราหอมๆ หอมใบกะเพรามาก หอมอร่อยเข้ากันมาก รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เพิ่มไข่ดาว พริกน้ำปลาลงไป อร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้นค่ะ เรามีเคล็ดลับคือ เลือกกุ้งสดที่สดใหม่ เลือกกะเพราที่สีเขียวสด นำมาเด็ดออกเป็นใบๆ แล้วนำมาผัดใส่เครื่องปรุงรสต่างๆ ลงไป จะได้ผัดกะเพรากุ้งหอมๆ รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน หอมอร่อย หวังว่าทุกท่านคงอร่อย กับผัดกะเพรากุ้ง สูตรรสชาติเข้มข้นจัดจ้าน หอมอร่อยของเราน่ะค่ะ

สูตรอาหารไทย : ส่วนผสมสำหรับทำผัดกะเพรากุ้งStir Fried Shrimp with Basil

สำหรับ 2 ท่าน

-กุ้งสด 300 กรัม

-กะเพรา 50 กรัม

-กระเทียม 5 กลีบ

-พริกขี้หนู 10 เม็ด

-น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

-น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา

-ซีอิ้วขาว ½ ช้อนโต๊ะ

-ซีอิ้วดำ ½ ช้อนโต๊ะ

-น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ

-น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ

-น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการและขั้นตอนการทำผัดกะเพรากุ้งPad Ka Pow Goong

1.เลือกกุ้งสดที่สดใหม่ จากนั้นนำมาปอกเปลือกออก แล้วผ่าหลังเอาเส้นดำออก แล้วล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำออก เตรียมไว้

2.เลือกกะเพราที่เขียวสด นำมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วสะเด็ดน้ำออก จากนั้นนำมาเด็ดยอดอ่อน และเด็ดออกเป็นใบๆ เตรียมไว้

3.จากนั้นตั้งกระทะให้ร้อน ใช้ไฟกลาง แล้วใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นจึงใส่กระเทียมกับ พริกขี้หนูตำพอหยาบลงไป จากนั้นผัดให้หอม จากนั้นใส่กุ้งสดลงไปผัดพอสุก

4.เมื่อผัดกุ้งพอสุกแล้ว จากนั้นใส่เครื่องปรุงรสต่างๆ ลงไป ใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว น้ำเปล่าลงไป แล้วคนคลุกเคล้าให้เข้ากัน

5.เมื่อผัดทุกอย่างผสมเข้ากันดีแล้ว จากนั้นจึงใส่กะเพราเด็ดใบลงไป

6.จากนั้นผัดคนคลุกเคล้าให้เข้ากัน ให้กะเพราพอสลด จากนั้นปิดไฟ จะได้ผัดกะเพรากุ้ง พร้อมจัดเสิร์ฟ

7.จัดเสิร์ฟ ผัดกะเพรากุ้งหอมๆ รสชาติจัดจ้าน เข้มข้นหอมอร่อย กุ้งหวานนุ่ม หอมใบกะเพรามาก เพิ่มความอร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยพริกน้ำปลา และไข่ดาวกรอบๆ หอมอร่อยเข้ากันค่ะ

8.ผัดกะเพรากุ้งหอมๆ รสชาติจัดจ้าน เข้มข้นหอมอร่อย กุ้งหวานนุ่ม หอมใบกะเพรามาก เพิ่มความอร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยพริกน้ำปลา และไข่ดาวกรอบๆ หอมอร่อยเข้ากันค่ะ

*ผัดกะเพรากุ้งหอมๆ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติจัดจ้าน เข้มข้นหอมอร่อย กุ้งหวานนุ่ม หอมใบกะเพรามาก เพิ่มความอร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยพริกน้ำปลา และไข่ดาวกรอบๆ หอมอร่อยเข้ากันค่ะ

*ที่มา:https://www.thai-thaifood.com/th/%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87/

แกงส้มมะละกอกุ้ง

แกงส้มมะละกอกุ้ง

              เคยทานแกงส้มมะละกอกันบ้างหรือยังคะ ใครที่ยังไม่เคยเราขอแนะนำเลยค่ะ มันอร่อยมาก เนื้อมะละกอดิบที่เอามาแกงส้มพอแกงได้ที่แล้วน้ำแกงส้มเข้าเนื้อแล้ว ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก แล้วถ้าได้กุ้งสดเนื้อเด้งๆมาอีกล่ะก็ รับรองว่าแกงส้มมะละกอกุ้งสดนี้มันต้องอร่อยเด็ดจนต้องยกซดแน่ๆ

ส่วนผสม

-มะละกอ 

-น้ำพริกแกงส้ม

-กุ้งปอกเปลือกหมด หั่นหยาบๆ

-ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนๆ

-เครื่อปรุง

-น้ำตาลปี๊ป ปลายช้อน

-น้ำปลา

-น้ำมะขามเปียก

วิธีปรุง

1. นำพริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำให้นิ่ม หลังจากนั้นนำมาโขลกรวมกับพริกขี้หนูแห้ง เกลือ หอมแดง ค่อยๆโขลกให้ละเอียดเข้ากัน

2. ใส่กะปิลงไปโขลกให้เข้ากัน

3. นำกุ้งสดครึ่งนึงมาต้มให้สุกแล้วนำไปโขลกเข้าด้วยกันกับพริกแกง

4. ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่เครื่องแกงส้มลงไปละลาย

5. ใส่มะละกอลงไปต้มจนสุก

6. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก 

7. เมื่อแกงส้มเดือดใส่กุ้งสดที่เหลืองลงไปต้มจนสุก ตักใส่ชามพร้อมเสิร์ฟค่ะ

*ที่มา:https://th.openrice.com/th/recipe/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%94/3439

ราดหน้า

ราดหน้า

                      

    หาเมนูอาหารจานเดียวทำทานกันมั๊ยคะ ขอแนะนำราดหน้าหมูหมักค่ะ ความอร่อยมันอยู่ที่การหมักหมูให้นุ่ม ถ้ามีเวลาล่ะก็อย่าลืมเตรียมหมักหมูตามสูตรที่ใส่ไว้ในเคล็ดลับนะคะ

ส่วนผสมและสัดส่วน

1. เนื้อหมู

2. ผักคะน้า

3. กระเทียมสับ

4. ซอสเต้าเจี้ยว

5. ซีอิ๊วขาว

6. น้ำตาลทราย

7. พริกไทยขาวป่น

8. แป้งข้าวโพด

9. เส้นใหญ่

10. ซีอิ๊วดำ

11. น้ำมันพืช

วิธีปรุง

1. ใส่น้ำมันพืชในกระทะ นำเส้นใหญ่ลงไปผัดกับซีอิ๊วดำเล็กน้อย เพื่อให้เส้นสีสวย แล้วพักเส้นไว้
2. ใส่น้ำมันในกระทะ ผัดกระเทียม ซอสเต้าเจี้ยว ใส่ผักคะน้าลงไปผัด ตามด้วยน้ำ รอให้ผักนิ่ม
3. เติมเนื้อหมูหมักลงไปผัด ผัดให้เนื้อหมูสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น
4. ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า แล้วค่อยเติมลงไปพอให้น้ำราดหน้าเหนียว ปิดเตาได้
5. ตักน้ำราดหน้า ราดบนเส้นใหญ่ รับประทานกับพริกป่น น้ำส้มพริกดอง ตามชอบนะ

*ที่มา:https://th.openrice.com/th/recipe/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9/2612

ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง

ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง

ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง

      วันนี้ เรานำเมนู ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง เมนูเพื่อสุขภาพแสนอร่อย รสชาติกลมกล่อมหอมอร่อย สีสันสวยงาม รสชาติเปรี้ยวหวานเค็ม ครบทุกรสลงตัวพอดี กุ้งนุ่มๆ กับผักสดต่างๆ กรุบกรอบอร่อยเข้ากัน รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ หอมอร่อยเข้ากัน เรามีเคล็ดลับคือ เลือกกุ้งที่ใหม่สดๆ และเลือกผักที่ใหม่สดๆ แล้วนำมาผัดให้เข้ากัน และใช้เวลาผัดไม่นาน เพราะเวลารับประทาน จะได้ผักที่มีความกรุบกรอบ มีความสดสีสันสวยงาม แล้วใส่เครื่องปรุงรสเปรี้ยวหวานต่างๆ ลงไป จะได้ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง รสชาติกลมกล่อมหอมอร่อย เปรี้ยวหวานเค็มครบทุกรส ลงตัวพอดีค่ะ หวังว่าทุกท่านคงอร่อย กับผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง สูตรกลมกล่อมหอม อร่อยของเราน่ะค่ะ

สูตรอาหารไทย : ส่วนผสมสำหรับทำ
ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง
Sweet and Sour Sauce Fried with Prawns

สำหรับ 2 ท่าน
-กุ้งสด 250 กรัม
-แตงกวา 100 กรัม
-หอมใหญ่ ½ หัว
-พริกหยวกสามสี 120 กรัม
-สับปะรด 100 กรัม
-ต้นหอม 1 ต้น
-มะเขือเทศ 1 ลูก
-น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
-น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำเปล่า 50 มล.
-แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ
-ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีการและขั้นตอนการทำ
ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง
Pad Preaw Wan Goong

1.เลือกกุ้งที่ใหม่สด สีเข้มเนื้อไม่เละ และไม่มีกลิ่นเหม็น จากนั้นนำมาผ่าหลังเอาเส้นดำออก แล้วแกะเอาเปลือกออก จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้

2.เลือกผักสดต่างๆ ที่สดใหม่ จากนั้นเตรียมผักสดต่างๆ ได้แก่ สับปะรด แตงกวา ต้นหอม หอมใหญ่ มะเขือเทศ พริกหยวกสามสี ได้แก่สีแดง สีเหลือง สีเขียว เตรียมไว้ แล้วนำผักสดต่างๆ มาล้างน้ำให้สะอาด แล้วสะเด็ดน้ำพักไว้

3.จากนั้นนำสับปะรด มาปอกเปลือกออก แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอคำ นำแตงกวามาหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอคำ นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอคำ นำพริกหยวกสามสีมาผ่าออก แล้วนำเมล็ดออกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ นำหอมใหญ่มาปอกเปลือกออก แล้วหั่นบางๆ ตามยาว นำต้นหอมมาหั่นท่อน นำกระเทียมมาปอกเปลือกออก แล้วสับพอหยาบ เตรียมไว้

4.จากนั้นเตรียมเครื่องปรุงรสต่างๆ ได้แก่ น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ น้ำมันหอย ซอสมะเขือเทศ น้ำเปล่า น้ำมันสำหรับผัด แป้งข้าวโพดละลายน้ำ เตรียมไว้

5.จากนั้นตั้งกะทะให้ร้อน ใช้ไฟกลาง แล้วใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไป รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นใส่กระเทียมสับลงไป แล้วผัดให้เหลืองหอม จากนั้นนำกุ้งสดใส่ลงไป แล้วผัดให้กุ้งพอสุกออกสีส้ม

6.จากนั้นใส่ผักสดต่างๆ ที่หั่นเตรียมไว้แล้วลงไป ใส่สับปะรด แตงกวา พริกหยวกสามสี ได้แก่สีแดง สีเหลือง สีเขียว หอมใหญ่ มะเขือเทศลงไป แล้วผัดให้เข้ากัน

7.จากนั้นจึงใส่เครื่องปรุงรสต่างๆ ลงไป ใส่น้ำตาลทราย น้ำมันหอย น้ำปลา น้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ ซอสมะเขือเทศ น้ำเปล่าใส่ลงไป แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน

8.จากนั้นจึงใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำลงไป แล้วผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันพอข้นเหนียว จากนั้นโรยหน้าด้วยต้นหอมหั่นท่อนลงไป แล้วปิดไฟยกลง

9.ผัดเปรี้ยวหวานกุ้งร้อนๆ รสชาติกลมกล่อมหอมอร่อย เปรี้ยวหวานเค็มครบทุกรสลงตัวพอดี กุ้งนุ่มๆ กับผักสดต่างๆ กรุบกรอบอร่อย สีสันสวยงาม หอมอร่อยเข้ากัน พร้อมจัดเสิร์ฟ

10.จัดเสิร์ฟ ผัดเปรี้ยวหวานกุ้งหอมๆ รสชาติกลมกล่อมหอมอร่อย เปรี้ยวหวานเค็มครบทุกรสลงตัวพอดี กุ้งนุ่มๆ กับผักสดต่างๆ กรุบกรอบอร่อย สีสันสวยงาม หอมอร่อยเข้ากัน

11.ผัดเปรี้ยวหวานกุ้งหอมๆ รสชาติกลมกล่อมหอมอร่อย เปรี้ยวหวานเค็มครบทุกรสลงตัวพอดี กุ้งนุ่มๆ กับผักสดต่างๆ กรุบกรอบอร่อย สีสันสวยงาม หอมอร่อยเข้ากัน

ผัดเปรี้ยวหวานกุ้งหอมๆ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติกลมกล่อมหอมอร่อย เปรี้ยวหวานเค็มครบทุกรสลงตัวพอดี กุ้งนุ่มๆ กับผักสดต่างๆ กรุบกรอบอร่อย สีสันสวยงาม หอมอร่อยเข้ากันค่ะ

*ที่มา:https://th.openrice.com/th/recipe/%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87/444